ถ้าพูดถึงอาชีพนี้ โคโยตี้ ในประเทศไทยคงไม่มีใครไม่รู้จัก
อาชีพนี้มีมุมมองแตกต่างกันออกไป แต่ส่วนใหญ่จะไปในทางไม่ดีเสียมากกว่า
ตอน 1 ทำไมถึงเป็นโคโยตี้
ถ้าถามว่าทำไมต้องเป็นโคโยตี้ คุณจะได้คำตอบหลากหลายแตกต่างกัน
จะเอาแบบดราม่า แม่ป่วย พ่อติดการพนัน ยายเข้าโรงบาลไม่มีเงินค่ารักษา
หรือจะเอาแบบตรงไปตรงมาก็มันหาเงินง่าย ดูแล้วไม่น่าจะเหนื่อย แต่ก็ได้เงินเป็นกอบเป็นกำ
หรือแบบอ้อมๆโลกสวย เรียนมาน้อยทางเลือกมีไม่มากคิดว่าไม่น่าเสียหายอะไร
ก็สุดแท้แต่จะได้คำตอบจริงบ้าง แต่งบ้าง จริงหลอกรวมกันบ้าง
แต่สิ่งที่จริงที่สุด ทุกคนทำเพื่อเงินซึ่งนั่นคือเหตุผลที่ชัดเจน
แล้วลองมาคิดกันต่อ ทำไมไม่ทำอาชีพอื่น อาชีพอื่นไม่ได้เงินเหรอ
ก็นั่นแหละมันก็จะวนมาเหตุผลเดิม เพราะฉนั้นอย่าพยายามทำความเข้าใจเลยในเรื่องนี้ ปล่อยผ่านไป555+
99.99%ผู้หญิงที่มาเป็นโคโยตี้นั้นได้ผ่านการ มีซำติง กับผู้ชายมาแล้วทั้งนั้น
อีก 00.01%ให้กับพวกที่กล้า แหลในเรื่องที่เมิงคิดว่าคนฟัง กินหญ้าแทนข้าว
ก่อนจะมาเป็นที่แน่ๆก็ต้องมี สเตปในการเต้นพอสมควร
แต่ก็มีไอ้ประเภท เดินยังคร่อมจังหวะ แต่ดันเสือกสมัครมาเต้นโคโยตี้
แล้วไอ้ที่เด็ดกว่านั้นก็คือ ร้านก็ยินยอมให้น้องพวกนี้ ยืนเต้นไป
คือเมิงกล้าสมัคร กูก็กล้ารับไรงี้ ก็กลายเป็นสีสรรของร้านไป
เพราะสังเกตุซิพวกเต้นดี เต้นปกติเนี่ย ลูกค้าไม่สนใจหรอก
ถ้าไม่สวยหน้าเป๊ะ หุ่นสะพรึงจริงๆ แต่ถ้าเต้นเกรียนๆ ง่อยๆ หละเมิงเอ้ย
เมาเมิวอยู่ เป็นอันต้องหงายหน้ามามอง จังหวะที่นางคิดขึ้นเอง. โดยไม่เข้ากับเพลงแน่ๆ
อะกลับมาต่อ อยากได้เงิน เต้นเป็น ต้องผ่านการเสียตัวมาแล้วอันนี้สำคัญ
ทุกคนรู้หมดว่าทำงาน นั่งกับลูกค้าเนี่ย เบสิคเลย มือต้องโดนกันแน่ๆ
ถ้าซิงมา ไม่เคยผ่านอะไรมาเลย นางอาจจะตกใจหัวใจวางวาย ก็เป็นได้
สรุป ทำไมต้องมาเป็นโคโยตี้ ก็คือต้องการเงิน เงินที่ต่อเดือน สูงกว่าสตาร์ทขั้นตนของคนจบปริญญา ซะอีก!!!
ตอน 2 วันแรกโคโยตี้ -1
ตื่นเต้นเป็นที่สุด อารมณ์แบบถือของพะรุงพะรังเดินเข้าบ้านทรายทองเลย
ผิดก็แค่ไม่มีเพลงแบบ “คืนนี้ เป็นคืนเดือนแรมมมมม” อะไรประมาณนี้
โคโยตี้จะมีอยู่2อย่าง ทำงานวันแรกในที่แรก
กับทำงานวันแรกในที่ใหม่ เรียกง่ายๆว่าใหม่ที่นี้เก่าที่อื่นไรงี้
จะมาเหลาเรื่องทำงานวันแรกในที่แรกก่อน
คือตื่นเต้นสุดๆมโนไปต่างๆนาๆ ฉันจะได้นั่งไม๊(ลูกค้าเรียก)ฉันจะเจอลูกค้าแบบไหน
ย้อนไปประมาณ5ปีที่แล้ว มีคอกเทลเล้าจ์ไม่เล็ก ไม่ใหญ่ย่านใจเอียงเมืองกรุงเทพ หรือจะออกชานเมืองนั่นเอง
รับสมัครโคโยตี้ ในราคา 600,800,1000,1200,1500 (ต่อวัน)
แล้วแต่ความสวย เสื้อ ผ้า หน้า ผม หุ่น นม เป๊ะ แค่ไหน
แต่ละคนต้องทำดื่มเข้าร้าน เรียกว่าแบ่งร้าน กับเด็ก อะไรยังไง ร้านก็จะทำความเข้าใจกับเรา และนี่คือสาเหตุว่าทำไมเราต้องกังวลนักหนา ว่า..จะมีลูกค้าเรียกเรานั่งหรือไม่
เมื่อทำความเข้าใจแล้ว วันแรกสิ่งที่ร้านจะบอกก็คือค่าตัวเท่านั้น
และการแต่งกาย จะมีตารางชุดวันไหนใส่สีอะไร แบบไหน โอเคพอเข้าใจแล้ว การทำอะไรต้องมีการลงทุน ร้องเท้า เสื้อผ้า แอสเสดเซอร์รี่ต่างๆ ซื้อลงทุนใหม่หมด
คุณจะเอาที่มีอยู่แล้วมาใช้ไม่ได้แน่ รองเท้าบู๊ทยาวเท่าเข่า เสื้อผ้า สั้นมาก ย้ำสั้นมาก
อารมณ์แบบกางเกงในยีนส์อย่างงี้ เพราะฉนั้นไม่ได้ใส่ในชีวิตประจำวันอยู่แล้วคะ
แล้วนี่ก็คือสิ่งที่ต้องแบกไปทำงานวันแรก+เรื่องที่ต้องคิดในสมอง
วันแรกขึ้นเต้นนะคะ โหย…แบบคือสูงมากกก แคบมาก คือคิดเลยว่า ร้านเมิงจะสูงไปไหน ขาสั่นมากกกก
การเต้นจะมีเต้น 3 เพลง (ไม่กำหนดแล้วแต่ร้าน) เต้น 1 เพลง หมุนขยับตำแหน่งกัน 1 ครั้ง
แหม่….ห่านเอ้ยยืนเฉยๆก็เกร็งจะแย่ การขยับตำแหน่งเป็นการโชว์ตัว
ให้ลูกค้าเห็นเราในทุกมุมของร้าน หรือเป็นการประจานตัวเองนั่นเอง
จำได้ไม่ลืม วันแรกเต้นได้ง่อยมากก. กลัวตกก็กลัว อายก็อาย
เซล์เซิลก็จะพรีเซนต์ไง แถบจะทุกโต๊ะ อารมณ์แบบนี่อะคะ น้องใหม่ ทำงานวันแรก
และถ้าคนที่เค้าดูออกเค้าก็จะรู้เลยว่า นอกจากทำงานวันแรกแล้ว ยังเริ่มงานที่แรกอีกด้วย
เป็นคนกรุงเทพคะ แต่อยู่ดีๆก็อินกับคำว่า”บ้านนอก เข้ากรุงขึ้นมาซะอย่างนั้น”
เต้นรอบแรกจบไปคะ ผ่านไปได้แบบทุกลักทุเล
วันแรกก็ได้นั่งคะ คงจะเป็นแผนของทางร้านแบบเด็กๆมาทำงานวันแรกๆต้องเชียร์
จะได้มีกำลังใจ หรือความสวยใสของเราก็มิอาจจะทราบได้555+
พอได้นั่งปุ๊ป คะ!!!ครั้งแรกนั่งเป็นเป่าสาก นิ่งมาก ไม่รู้จะพูดอะไร ไม่รู้จะคุยอะไร
จริงๆวันนั้นต้องแจกดื่มลูกค้ามากกว่า เพราะลูกค้าจะชวนเราคุย ^^ ชื่ออะไร อายุเท่าไหร่ บ้านอยู่ไหน พักที่ไหน มีแฟนรึยัง ก็ว่าไปตามสเตป(เดี๊ยวนี้ถึงรู้ว่าเป็นสเตป)
ตอน 3 วันแรกโคโยตี้ -2 (จบ)
ค่ะ เท้าความจากครึ่งแรกว่า ทำงานวันแรกเนี่ยก็จะเงียบ ไม่รู้จะพูดอะไร ยังไงกับลูกค้าดี ก็ปล่อยให้ลูกค้าสัมภาษณ์ไป
จนเซลส์เห็นท่าจะไม่เวิร์ค ก็เลยเริ่มเปิดกิจกรรมสนองนโยบายร้าน นั่นก็คือ “เหล้าแขก แดกให้หมด” อุปกรณ์ในการ สนองนโยบายร้านเนี่ยก็มีไม่เยอะคะ
ลูกเต๋าพร้อมกระบอก รวมกันเรียกเต๋าโกหก แก้วช๊อต เหล้า แล้วก็เด็กที่นั่งหน้ามึนๆ เห็นครั้งแรก คิดในใจ มันจะเอามาเขย่าไฮโลรึไงฟะ
อะ พอเต๋ามา นางก็แจกกระบอกเลยคะ ด้านหน้าคนหละ 1ชุด ในกระบอกนั้นจะมีเต๋า 5 ลูก
ลูกค้าชิงถามก่อนเลย เล่นเป็นไม๊? แน่นอนไม่เป็นซิคะ เซลส์แลดูใจดีคะ เล่นๆไปเดี๋ยวพี่สอน ไม่ยาก เดีี๊ยวก็เก่ง
หลังจากลูกค้า กับเซลล์ช่วยกันสอนคร่าวๆ
ค่ะ!!!เดาถูกต้องคะ แพ้ซิคะ เมาซิคะ จะเหลือ
ทีนี้จากพูดน้อย ก็พูดเยอะขึ้น จากเต้นแล้วขาสั่น สเตปย้วยมาเหรอคะ พริ้วมากขอบอก แหม่ เหล้าช๊อตช่วยท่านได้ค่ะ
ต่อไปก็ทำงานวันแรกในที่ใหม่ อันนี้แตกต่างกันมากคะ ติดแค่ประหม่า ยังไม่ชินเวที แต่จะให้หมุน ให้ย้วยแค่ไหนจัดได้หมด อุปกรณ์ส่งเสริมนโยบายร้านเหรอคะ ไม่ต้องรอให้ลูกค้าหรือเซลล์ถามคะ ชวนเล่นเองเลยคะ
ลูกค้าบางคนไม่อยากเล่น ยังไปบังคับเล่นด้วยซ้ำ5555+ อย่าว่าแต่เต๋าโกหกเลยคะ ตอนนี้เต๋าตอแหลก็ไม่ถอยคะ เป่ายิ้งฉุบเอย 789 เอย (7 เติมเหล้า 8 ครึ่งแก้ว 9 หมดแก้ว)
ลามไปถึงการแทงพูล ต้องเป็นคะ เราต้องครอบคลุมคะ เป็นโคโยตี้จะมานั่งมึนๆมันไม่ใช่ ลูกค้านะคะ ส่วนใหญ่ก็จะชอบแหละ
ทำงานวันแรก ในที่แรก เค้าจะแฮปปี้ อารมณ์อย่างกับได้เปิดซิงเราซะขนาดนั้น แลดูสดใหม่ นังอึน นั่งชิว เกมส์เล่นไม่ค่อยเป็นก็โอเค (แต่ต้องสวยเกิน70%)
ถ้าถามว่าลูกค้าที่นั่งด้วยครั้งแรก เป็นยังไงบ้าง ขอบอกว่าจำไม่ได้
โคโยตี้จำลูกค้าไม่ได้ทุกคนหรอกคะ จะจำได้ก็มีอยู่ไม่กี่อย่าง คือนั่งดื่มกันบ่อยๆ มีวีรกรรมกัน ไม่ว่าจะทะเลาะกัน ลวนลามมือปลาหมึกมาก ปากเหม็น ตัวเหม็น บลาๆๆๆ
และที่จำแม่นที่สุดคือ ไม่ได้นั่งดื่มอย่างเดียว ได้นอนดื่มด้วย จำได้แต่วันแรกแน่นอน
เมา เมื่อยขาที่ต้องมาใส่สูงๆเดินทั้งคืน แปลกใหม่ แปลกตากับการทำงาน เพราะร้านพวกนี้ ไม่เหมือนตามผับที่เราเที่ยวมาแน่ๆ ความนตื่นเต้นจึงแฝงอยู่ในขุมขน หัวหูตลอด
พอร้านเลิกทุกคนก็จะทยอยกลับ การกลับแต่หละคนแตกต่าง กันอย่างมาก มีทั้งมีแม่หรือญาติมาเฝ้าที่ร้านกลับพร้อมกัน แลดูลูกคุณหนู ทำแบบดาราเค้าทำกันอะ ไปถ่ายละคร ไปอัดรายการมีแม่ หรือญาติมาเฝ้ัางี้
หรือกลับคนเดียว เมาไม่เมา ไปลุ้นกับแท็กซี่อีกทีว่าจะเจอคนขับปลอดภัยรึเปล่า หรือกลับเป็นแกงค์รวมทีม ทางเดียวกัน คันเดียวกัน หรือกลับพร้อมลูกค้า คือลูกค้าช่างเป็นคนดี อยากไปส่ง นางจะเล่นมุขแบบหาไรกินไหมจ๊ะ
(ช่างมาหิวตอนตี2 ทีอยู่ในร้านถามสั่งกับข้าวอะไรไม๊คะ แม่ง บอกอิ่มๆ พี่ไม่กินกลางคืน เดี๊ยวอ้วน) หรือกลับกะพี่ไม๊ประหยัดดี (แหม…ช่วยตูประหยัดขึ้นมาเชีย เมื่อกี้ตูขอทิปให้เด็กเสริฟ บอกไม่มีเศษ เรามีซัก40มะ ให้ไปก่อน)
อันนี้ก็แล้วแต่ใคร ใคร่ใคร้ จะไปกับลูกค้าหรือไม่
ที่เด็ดสุดคือ……………ถูกคะ กลับกะผัว เอ้ย! แฟน
เรื่องนี้ขอยกยอดไปเล่า ในส่วนของ แฟนโคโยตี้อีกที
เพราะเรื่องผัวๆเนี่ยเรื่องมันเยอะ
จบค่ะ จบปิ้ง!