วันนี้เราหยิบบทความจัดเต็ม ที่คิดว่ามีประโยชน์สำหรับเพื่อนๆวงการพริตตี้ที่ต้องใช้ครีมกันแดดเป็นประจำ จากสมาชิกเว็บไซต์พันทิบดอทคอม คุณ Jimmy Return มาฝากกันค่ะ ขอขอบคุณมาก ณ ที่นี้ครับ
สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาวพันทิปทุกคน ตัวผมเองห่างหายจากการตั้งกระทู้รีวิวในพันทิปมานานมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งรีวิวกันแดด จำได้ว่ากระทู้ล่าสุดเกี่ยวกับกันแดดนั้นกินเวลามานานกว่า 1 ปีเลยทีเดียว
ระหว่างที่หายไปนั้นมีโอกาสได้ลองใช้กันแดดหลายตัวมา ๆ ๆ ๆ (ก็เวลาตั้งปีกว่าอะเนอะ)
ความนี้กลับมาพร้อมกับงานเขียนที่เนื้อหาแน่นขึ้นกว่าเดิม (รึเปล่า) จากประสมการณ์ที่สั่งสมมา
เนื่องจากกันแดดที่ตุนไว้นั้นมีเหยียบ ๆ 20 ตัว ใช้ไปแล้วประมาณ 10 กว่าตัว จะให้ขนมารีวิวทั้งกรุ
คงจะทะลุ 100 หน้ากระดาษ word สุดท้ายเลยเลือกรีวิวตาม concept ของกันแดดแต่ละตัวที่วางไว้
โดยกระทู้นี้จะนำเอากันแดดที่มีผลต่อการปรับผิวให้สว่าง ปรับผิวให้ขาวขึ้น
หรือทำหน้าที่เป็น make up base มารวมกันไว้ในกระทู้นี้
ในกระทู้นี้เกือบทั้งหมดจะเป็น item ที่เสียเงินซื้อมาเอง มีเพียงตัวเดียวเท่านั้นที่แบรนด์ได้ส่งมาให้ลองใช้
ซึ่งได้ตกลงกับทางแบรนด์ไว้ก่อนที่จะรับว่า รีวิวตามจริง negative review อย่าว่ากัน
ซึ่งทางแบรนด์ก็ยืนยันที่จะส่งของมาให้ ซึ่งถ้าใครไม่เห็นด้วยกับการรีวิวโดยที่ของไม่ได้ซื้อมาเองแบบนี้
สามารถข้ามรีวิวตัวนั้นไปได้เลยโดยจะเขียนกำกับไว้ให้ว่าตัวไหนที่ได้มาฟรีบ้าง
การรีวิวแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ
1.Review score – รีวิวตามองค์ประกอบ 4 ส่วน
คือส่วนของคะแนนที่ให้ตามเนื้อผ้าไม่มีความชอบมาเกี่ยวแบ่งเป็น 4 องค์ประกอบดังนี้
1.ส่วนผสม : 40 %
ให้คะแนนตามส่วนผสมที่มีอยู่ในสกินแคร์ตัวนั้น ๆ ไม่สนเรื่องราคา
ไม่สนว่าตัวเองใช้แล้วแพ้รึเปล่า หรือว่าชอบรึเปล่า
แต่เน้นในเรื่องของบำบำรุงที่มีประโยชน์แก่ผิว ว่าใส่มามากพอหรือไม่
สารออกฤทธิ์ต่าง ๆ นั้นมีงานวิจัยรองรับหรือยอมรับกันอย่างกว้างขวางหรือไม่
รวมถึงหักคะแนนส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดความระคายเคืองแก่ผิวร่วมด้วย
ซึ่งจะถ่วงคะแนนมากที่สุดคือ 40 %2.ผลลัพธ์ / ผลการใช้ : 30 %
ให้คะแนนตามผลลัพธ์หลังจากที่ได้ใช้ว่าดีขึ้นมาน้อยขนาดไหนเพราะว่าบางทีส่วนผสมดี
แต่ว่าเค้าอาจให้มาในปริมาณทีน้อยเมื่อนำมาใช้จริงแล้วกลับไม่ค่อยเห็นผลอะไร
แต่บางตัวส่วนผสมนั้นมีสารออกฤทธิ์แค่เพียงไม่กี่ตัว
แต่เมื่อนำมาใช้กับผิวจริง ๆ มันกลับให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจก็เป้นได้
ซึ่งคะแนนในส่วนนี้จะถ่วงรองลงมาคือ 30 %3. ความคุ้มค่า : 20 %
หากพูดถึงเรื่องความคุ้มค่า หลายคนคงมองไปที่ตัวราคาว่าราคานั้นถูกหรือแพงแค่ไหน
แต่ความคุ้มค่าในที่นี้นั้นต้องดูที่ปริมาณที่ได้รับว่าเฉลี่ยแล้วราคาต่อปริมาณที่ได้มันเท่าไหร่กัน
รวมถึงการใช้งานของตัวผลิตภัณฑ์เช่น เซรัม ราคาจะสูงกว่าผลิตภัณฑ์แบบอื่น ๆ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก
เพราะ step ของเซรัมเองมีสารออกฤทธิ์ที่ถือว่ามากที่สุดของทุกขั้นตอน
แต่โทนเนอร์นั้นการใช้ครั้งนึงจำเป็นต้องใช้ในปริมาณที่มาก เพราะฉะนั้นราคาต่อปริมาณ
ที่ได้รับนั้นไม่ควรสูงมากจนเกินไปสกินแคร์บางยี่ห้อที่มีราคาแพงแต่ส่วนผสมนั้นสามารถหาได้จากผลิตภัณฑ์ตัวอื่น ๆ
ที่มีราคารองลงมาทำให้เราไม่จำเป็นต้องเสียเงินซื้อสินค้าราคาแพงเพื่อให้ได้
สารบำรุงตัวเดียวกับสินค้าที่ราคาถูกลงมาความคุ้มค่าอาจหมายถึงผลิตภัณฑ์ที่เมื่อซื้อมาใช้แล้วไม่เปล่าประโยชน์
สินค้าบางตัวซื้อมาแล้วแทบไม่ได้ใช้เพราะใช้ไปก็ไม่มีผลลัพธ์อะไรเกิดขึ้น
ซึ่งความคุ้มค่าทุกนิยามที่กล่าวมานี้ถ่วงคะแนนที่ 20 %4. บรรจุภัณฑ์ / เนื้อผลิตภัณฑ์ : 40 %
สกินแคร์บางชนิดดีทุกอย่างทั้งในเรื่องของส่วนผสม ราคา
แต่ว่าเนื้อผลิตภัณฑ์นั้นทาแล้วรู้สึกไม่สบายผิวมาก
หรือว่าบางทีทาไปแล้วซึมช้าต้องรอเป็นชั่วโมงถึงจะสามารถทาบำรุงตัวต่อไปได้
เนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์บางตัวทำให้ผู้ใช้ไม่อยากใช้อาจเป็นเพราะกลิ่น
หรือเนื้อที่ไม่น่าใช้เอาเสียเลย ซึ่งล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้เรา
หยิบผลิตภัณฑ์ตัวนั้น ๆ มาใช้น้อยลงหรืออาจไม่อยากใช้เลยก็เป็นไปได้บรรจุภัณ์ก็เช่นกัน ถ้าเกิดไม่เหมาะสมก็มีผลต่อความเสถียรของสาร
เช่นผลิตภัณฑ์ที่มีวิตซีเป็นส่วนประกอบควรจะบรรจุในบรรจุภัณฑ์ที่ทึบแสง
รวมถึงผลิตภัณฑ์แบบกระปุกที่อาจทำให้มีสิ่งสกปรกตกค้างหลังเปิดใช้ได้ง่าย
ทั้งสองอย่างนี้ถ่วงคะแนน 10%
2.Favorite Grade – คะแนนความชอบส่วนตัว
จะเป็นว่าด้วยคะแนนทีให้ตามความชอบ บางอย่างส่วนผสมธรรมดามากกดูแล้วแทบไมมีอะไรเลย
แต่เมื่อเราได้ใช้จริง ๆ แล้วเราชอบ ใช้แล้วถูกกับผิวหน้าของตัวเอง
ถึงแม้อาจมีสารที่หลายคนแพ้แต่ตัวเองนั้นไม่แพ้เช่น น้ำหอม
การตัดสินใจส่วนนี้อาจเป็นไปตามคะแนน review score หรืออาจสวนทางกันก็ได้ยึดเหตุผลจากตัวเองเป็นหลัก โดยไม่ดูจากองค์ประกอบอื่นร่วมด้วยทั้งสิ้น
สำหรับ Favorite Grade จะให้เป็นเกรด เช่น
A > A- > B+ > B > B- > C + > C > C- …. เป็นต้นครับ
เนื้อหาฉบับเต็มจาก Pantip http://pantip.com/topic/32859337
สรุปท้ายบทความ
– Skincare ทุกตัวในกระทู้นี้ซื้อเอง ยกเว้น Provamed ที่แบรนด์ส่งมาให้ซึ่งไม่มีผลอะไรต่อการรีวิวเท่าไหร่
– เรียงลำดับตามคะแนน review score ได้ตามนี้
1 L’oreal instant white : 96.5%
2 Ganier (beige) : 94.5%
3 Neutrogena Clinical : 92.25%
4 Hada Labo (make up base) : 79%
5 Nivea (instant white) : 77%
ุ6 Pure beauty : 66%
7 Provamed : 64%
– เรียงลำดับตามความชอบ
1 Neutrogena Clinical >> A
2 L’oreal instant white >> B+
3 Ganier (beige) >> B
4. Hada Labo (make up base) >> B-
5 Nivea (instant white) >> % C+
ุ6 Provamed >> C-
7 Pure beauty >> D
– จะเห็นได้ว่าคะแนนรีวิวกับความชอบส่วนตัวผลออกมาต่างกันเพราะฉะนั้นอย่าซื้อตามเพียงเพราะ
ผมได้รีวิวแล้วคะแนนออกมาดี หรือซื้อเพราะผมชอบเท่านั้น ต้องดูที่ตัวเองเป็นหลักด้วย
(แต่กันแดดนั้นเลือกสารกันแดดด้วยก็ดี เดี๋ยวไม่เถสียรทาไปหน้าจะไหม้เอา)
– ส่วนตัวว่ากันแดดไม่ว่าราคาเต็มจะเท่าไหร่ ควรจะซื้อได้มาในราคา ml ละไม่เกิน 12-13 บาท
(30 ml ไม่เกิน 400 บาท) เพราะแค่กันแดด เลือกที่สารกันแดดดี ๆ เนื้อสัมผัสเราชอบก็พอ
– ควรทาบำรุงก่อนทากันแดดอย่างน้อย 1 ตัวเพราะกันแดดมันไม่มีสารบำรุงอะไรเท่าไหร่